ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การลงทุนที่เหมาะกับแต่ละช่วงชีวิต

ลงทุนยังไงให้เหมาะกับอายุ

ลงทุนยังไงให้เหมาะกับอายุ

ของขวัญพ่อให้ลูกทุกปีเขาบอกแล้วไงเอาแค่ 20 ก่อนมันก็มันก็เป็น 6 ล้านกว่ามันเป็นการให้มรดกที่คนพิเศษ การลงทุนด้วยนะมันมีหลากหลายรูปแบบมากไม่ว่าผู้อ่านจะทำด้วยตัวเองหรือว่าไปฝาก เขาลงทุนเองก็คือว่าการที่ผู้อ่านไปเปิดพอร์ตหุ้นนะครับแล้วผู้อ่านก็มีการเทรดหุ้นด้วยตัวเองซึ่งอันนี้มีคนถามแอดมินหลายคนมากว่าพี่ฟลุ๊คเปิดพอร์ตยังไงแล้วซื้อหุ้นยังไงคือคำถามของหลายคนเนี่ยมันทำให้แอดมินเข้าใจว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันต้องมีการเปิดพอร์ตหุ้นมันเหมือนกันวิธีเอาเงินไปตลาดแล้วก็ไปซื้อมันไม่ใช่นะครับคือผู้อ่านต้องไปเปิดพอร์ตก่อนเปิดปุ๊บโอนเงินเข้าไปโอนเข้าไปเขาเนี่ยแล้วก็ปรึกษา Marketing ได้ว่าผู้อ่านต้องการจะเลือกซื้อตัวไหนนะครับว่ามันจะขึ้นหรือจะลงเท่าไหร่อะไรยังไงคือมี target เท่าไหร่ก็คืออันนี้คือเป็นการที่ผู้อ่านเลือกหุ้นด้วยตัวเองก่อนระดับแรกอันที่สองก็คือว่าถ้าผู้อ่านไม่มีเวลาและไม่มีความรู้ผู้อ่านต้องปรึกษาผู้รู้นะครับโดยที่ว่าผู้อ่านเนี่ยก็ไปลงทุนในกองทุนละคราวนี้ก็จะมีหลากหลายสิ่งที่ดูง่ายที่สุดให้ย้อนดู Performance เก่าๆของกองทุนนั้นๆว่าเขามีอีกไหมเช่น 3 ปีที่ผ่านมากำไรทุกสีหรือเปล่ากำไรประมาณกี่เปอร์เซ็นต์หรือ

มันมีจริงไหมเช่นบางคนอาจจะมองว่าจะวิ่งไม่เป็นไรปีนี้กำไร 20 ปีต่อมาขาดทุน 5% + 30 ผู้อ่านอาจจะเป็นคนชอบแนวนี้ก็ได้คือตื่นเต้นแต่ว่าบ้านกองทุนก็จะเป็นแนวลึกๆกำไรปีละ 5 เปอร์เซ็นต์ 3% ไปเรื่อยๆผู้อ่านอาจจะชอบแนวนี้ก็ได้อย่างนั้นเนี่ยอันนั้นอีกระดับของการเลือกกองทุนแต่มันก็มีเริ่มต้นก็คือเลือกเล่นเองเจ็บเองไม่มีแฟนหรือใส่ของผู้อ่านครับคือ ซื้อ 10 บาทที่ร้านหุ้นแล้วกำไรเป็น 13 บาทแล้วแอดมินจะไม่ถามละเดี๋ยวไปเที่ยวยุโรปดีกว่าอย่างนี้ไม่ใช่ไงแอดมินก็จะมีคนทำแบบนี้เยอะมากแอดมินจะชอบให้เงินของแอดมินเนี่ยมันโตด้วยกันใช้กำไรก้นไปเรื่อยๆเหมือนดอกเบี้ยทบต้นเดี๋ยวค่อยอธิบายกันว่ามันไกลขนาดไหนเป็นสิ่งเป็นสิ่งที่แอดมินไม่ใส่เยอะแอดมินจะเลือกแนะนำให้ไปลงทุนในตลาดหุ้นหรือกองทุนหรือหลักการหรืออะไรก็ว่าไปเมื่อก่อนเนี่ยแอดมินว่ามันมันไม่ใช่แต่เดี๋ยวนี้ก็มีหลากหลายรูปแบบมากมายแต่ละแบงค์แต่ละที่แต่ละแต่ละวันหรือทุกอย่างคือผู้อ่านไปไหนก็ตามเนี่ยผู้อ่านมีประกันแน่นอนผู้อ่านอยู่เฉยๆในมือถือผู้อ่านยังมีคนโทรมาขายประกันผู้อ่านได้เลยแล้วมันก็จะหลากหลายรูปแบบจริงๆประกันแล้วผู้อ่านก็จะแบบงงมันเยอะจริงๆคืออย่างแรกอันนี้มันแบ่งแยกชัดเจนก่อนว่าเอาง่ายๆเลยนะประกันชีวิตกับประกันสุขภาพแรกๆที่ผู้อ่านที่ผู้อ่านต้องรู้ก่อนประกันชีวิตคืออะไรก็คือผู้อ่านทำเพื่อคนรุ่นหลังประกันสุขภาพคือผู้อ่านทำเพื่อผู้อ่านจะได้มีปัญญารักษาตัวเองนะฮะในกรณีที่ผู้อ่านเจ็บป่วยและผู้อ่านไม่อยากจะเข้าโรงพยาบาลของรัฐไม่อยากจะรอคิวอยากอยู่ห้องดีๆหรืออะไรแบบนี้นี่คือประกันสุขภาพไม่มีหลายแบบมากแต่ว่าที่แอดมินสนใจชอบเลยคือประกันชีวิตแบบลงทุนก็ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาเป็นมันเป็นเหมือนกับไปเล่นอยู่ในกองทุนยังไงก็คือสมมุติว่าประกันชีวิตปกติผู้อ่านก็จะประกันชีวิตปกติหมายถึงว่าผู้อ่านก็จ่ายเหมือนเดิมทุกปีจนกระทั่งคนเสียชีวิตก็คือจบหรือมันหมดหมดหมดสัญญาว่าจ่ายถึงอายุ 60 ปีหรืออายุ 50 หรืออะไรก็ตามแล้วผู้อ่านก็ไม่ต้องจ่ายแล้วกระจกมันก็แล้วแต่แต่ละที่ก็จะมีลูกเล่นของเขาให้ผู้อ่านแบบให้ผู้อ่านเข้าไปเล่นหรือให้ผู้อ่านสนใจแต่ว่ามันจะมีบางอันที่ไม่เหมือนคนอื่นเขาก็คือเป็นประกันบวกกับเหมือนกับมีคนมาเล่นหุ้นให้ผู้อ่านประกันที่แอดมินชอบส่วนตัวเลยนะก็คือประกันแนว Unit Link ผู้อ่านเนี่ยสามารถที่จะเลือกได้ครับว่าเงินที่ผู้อ่านลงทุกปีค่ะอยากได้ป่ะสมมุติว่าเอาตีซะว่าลงทีละแสนลงแสนก็คือเหมือนกับว่าผู้อ่านอยากจะให้มรดกลูกผู้อ่านคนไหนก็ตามผู้อ่านใส่ไปแสนนึงตั้งแต่ผู้อ่านสามารถเลือกได้ครับว่าเงินกี่เปอร์เซ็นต์จะไปอยู่ส่วนของประกันชีวิตและอีกส่วนนึงอยู่ในกองทุนซึ่งผู้อ่านเนี่ยสามารถเลือกได้ว่าผู้อ่านจะกองทุนไหนดูตามที่แอดมินพูดเมื่อสักครู่นี้ว่าผู้อ่านชอบแมวหรือหมาหรือผู้อ่านชอบแนวแบบค่อยๆขึ้นซึ่งผู้อ่านสามารถเปลี่ยนสัดส่วนไม่ได้ตลอดมันก็สนุกแล้วเลื่อนซ้ายเลื่อนขวาบัญชีเงินเนี่ยมันอาจจะปรับปีนี้เงินที่ผู้อ่านให้ลูกปีละแสนผู้อ่านนึกว่า

สมมุติถ้าผู้อ่านใส่ในรบประแสนะแล้วผู้อ่านปากแดงทุกทีจะได้ดอกเบี้ย 1% กว่าใส่ไปเรื่อยๆทุกปีมันก็ได้แค่นี้ต่อให้มันจะไม่ทนแทบตายมันก็ได้ระดับหนึ่งถ้าผู้อ่านทำประกันที่เป็นแบบยูนิตลิงค์ผู้อ่านสามารถเข้าไปแสนนึงแต่เงินอยู่ในประกันแค่ 30% หรือ 40% 60% เนี่ยตายเลยอยู่ในกองทุนที่เขาว่าดีมันก็สามารถที่จะได้เงินแสนนึงในปีหน้ามันอาจจะกลายเป็นมูลค่าที่เป็นแสน 125 อยู่ในแบงค์มันจะกลายเป็นแสนหนึ่งหมื่นเลยก็ได้กำไร 10% ภาพผู้อ่านไม่ได้ออกให้มันโตไปเรื่อยๆถ้ามันโตไปเรื่อยๆเนี่ย 10% คูณไปเรื่อยๆเนี่ยมันมีเป็นหลายๆเข้าได้แต่ไม่ใช่ดอกเบี้ยทบต้นมันคือเงินของผู้อ่านมันทำงานตลอดเวลาพูดง่ายๆไม่ได้อยู่เฉยๆฝนก็จะมีจุดแข็งจุดอ่อนหรืออะไรก็ตามแต่อันนี้พี่แค่แนะนำว่ามันสนุกไงคือคือผู้อ่านเลือกได้คือปกติผู้อ่านไม่ค่อยมีทางเลือกผู้อ่านผู้อ่านผู้อ่านมีทางเลือกมันมัน ไม่มีความเสี่ยงก็ไม่ต้องกลัวหรอกผู้อ่านก็ไม่ได้อยู่แล้วผู้อ่านจะได้มากได้น้อยอยู่แล้วเนี่ย ลูกก็ได้ 2 ตัวแทนดอกเบี้ยนิดหน่อยจะได้ไปกัน 55 ถ้าผู้อ่านเล่นอะไรก็ได้ไปเข้าผู้อ่านบอกแอดมินเคลียร์มาเลยเดี๋ยวกูฝากแม่ด้วยเอาจริงๆกูอยากรู้ว่าทำไมถึงไม่มีใครทำได้ดังนั้นมันดีกว่าที่ผู้อ่านใส่เงินเข้าไปเรื่อยๆโดยที่ว่าผู้อ่านบริหารด้วยตัวเองด้วยซ้ำเพราะต่อให้ผู้อ่านจะบริหารเก่งแค่ไหนก็ตามโอกาสที่ผู้อ่านจะได้ 80 เท่าหรือแบบบางคนนะถ้าอยู่กับแอดมินบ่อยๆคือจริงๆนะถ้าถามว่าใช่ไหมมันเหมาะกับคนที่มีคนที่ผู้อ่านมีมีคนที่ผู้อ่านอยากจะดูแลเขาหรือให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้หลังจากที่ผู้อ่านไม่อยู่เพราะผู้อ่านไม่รู้ว่าผู้อ่านจะไม่อยู่เมื่อไหร่แล้วถึงเวลาถ้าเกิดว่าผู้อ่านไม่อยากจะให้แล้วผู้อ่านก็ยกเลิกได้นะคือถึงเวลาที่เงินมันไม่ถึงจุดแล้วถ้าเกิดสมมติให้คนที่ผู้อ่านรักมันตายก่อนผู้อ่านเสมอไม่เข้าใจไม่เข้าใจเคยให้น้องไปแล้วก็บอกน้องว่าเนี่ยคือเป็นของขวัญพ่อให้ลูกทุกปีก็บอกแล้วไงก็ไม่ได้อะไรจริงๆแต่เขาไม่เห็นไงกระดาษ 1 ใบเขียนเช็คให้แล้วไง สมมุติผู้อ่านลงทุน 1 แสนบาทโดยที่ว่าผู้อ่านแบ่งแบ่งส่วนออกมาเป็นการ 50% เหลือ 5 หมื่นเองนะแต่ว่ากองทุนผู้อ่านเติบโตประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่ากับ 1 ถึงตั้งแต่ทีแรกแล้วก็เป็น 5150 ไปเรื่อยตอนนี้ เอาแค่เอาแค่หงุดหงิดก่อนมันก็มันก็เป็น 6 ล้านกว่าแล้วอย่าลืมว่าเงินมันก็โตขึ้นเรื่อยๆจะเข้าไปเรื่อยๆมันเป็นการให้มรดกที่พิเศษก็คือถ้าเกิดว่าผู้อ่านลงไปเรื่อยๆโดยที่ว่าผู้อ่านไม่ออกเลยยังได้เพิ่มอีก 2 เปอร์เซ็นต์ของเบี้ยประกันถูกตีตายยากเพราะว่าเพราะว่าอย่างแรกมันก็ต้องมองเห็นว่าผู้อ่านพร้อมจะให้คนอื่นไปเท่าไหร่ถึงแม้คนอื่นที่เขารักผู้อ่านพร้อมในช่วงนี้ที่จะให้เขาได้เท่าไหร่แล้วผู้อ่านมั่นใจว่าผู้อ่านจะให้เขาได้เท่าไหร่ตลอดชีวิตเพราะมันเป็นการที่ผู้อ่านต้องใส่ทุกทีไปเรื่อยๆจังนะเนี่ยผู้อ่านต้องรู้ก่อนว่าเงินก้อนนี้เป็นก้อนที่เป็นแมสหรือเป็นนอกเหนือจากสิ่งที่ผู้อ่านต้องใช้รวมไปถึงสิ่งที่ผู้อ่านต้องลงทุนเพื่อตัวเองด้วยถูกต้องเป็นคนที่รับความเสี่ยงได้มากแค่ไหนแต่ถ้าเป็นในส่วนของวันนี้คนที่ผู้อ่านรักเพื่อคนที่ผู้อ่านรักเป็นคนที่รับความเสี่ยงได้มากแค่ไหนแต่ถ้าเป็นแอดมินนะแอดมินก็ลงในส่วนของประกันแบบอย่างเต็มที่คือสิ่งเดียวที่เหลือให้แอดมินให้สู้ตายดีกว่าเพราะว่ายังไงก็ตามผู้อ่านอ่ะผู้อ่านในฐานะที่คนที่เป็นคนไข้มันไม่ได้ใช้อยู่แล้วฮ่าๆๆอยากให้เยอะหน่อยแอดมินว่าจะได้เยอะหน่อยก็คือเขาก็จะให้คำปรึกษากับผู้อ่านผู้อ่านก็จะรู้ว่าผู้อ่านเนี่ยเป็นคนแนวนั้นแนวที่สู้ตายหรือเอาที่แบบชิวๆมันอาจจะอยู่ในประกันชีวิต 90% แล้วลงทุนแค่ 10 ก็ได้หรือผู้อ่านอาจจะเป็นแนวที่ตรงข้ามกันแล้วไปอยู่คำหนึ่งก็คือเป็นแนวลงทุนเยอะกว่าน้อยกว่า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กองทุนรวมคืออะไร มือใหม่ควรอ่าน

ความหมายของกองทุนรวม คืออะไร กองทุนรวม คือ กองทุนที่รวบรวมเงินไปใช้ในการซื้อสินทรัพย์หรือตราสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน ทองคำ หรือจะเป็นการลงทุนในค่าเงินต่างๆในต่างประเทศ ซึ่งการใช้บริการกองทุนรวมจะช่วยให้เงินของเราถูกจัดการและลงทุนด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆอย่างเหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญต้องมีใบอนุญาต ผ่านการอบรม และมีการลงทุนอย่างเป็นระบบตามกฎหมาย และสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการแบ่งการลงทุนในแต่ละส่วนตามหลักการที่ถูกต้องของกองทุนรวม ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับการขาดทุนจนเกินที่จะรับได้ กองทุนรวมทุกกองทุนถูกควบคุมด้วยกฎหมายและระบบธนาคาร ไม่มีกองทุนใดมีความเสี่ยงมากเกินไปและสามารถทำกำไรให้เกิดดอกออกผลให้กับเราอย่างเหมาะสม การลงทุนในกองทุนรวมจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินเยอะมาก บางกองทุนมีผลตอบแทนมากถึง 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่หากเราใจร้อนอยากได้ผลตอบแทนรวดเร็วทันใจขอแนะนำกองทุนรวมระยะสั้นที่สามารถลงทุนและรับผลตอบแทนใน 1 ถึง 6 เดือน กองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี ผู้เชี่ยวชาญแบ่งการลงท

คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีอยากรวยต้องอ่าน

คำคม ความคิดของมหาเศรษฐี กล่าวไว้ว่าถ้าเราอยากจะเป็นแบบใครก็ให้เรียนแบบคนที่เป็นแบบนั้นซึ่งถ้าเราอยากจะเป็นคนที่ร่ำรวยแล้วแล้วก็แน่นอนว่าเราก็ควรจะต้องเรียนรู้วิธีคิดในแบบของคนที่รวยๆดังนั้นในวันนี้แอดมินก็เลยมี 15 คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีระดับโลก 10 การมาฝากกันและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราเรียนรู้วิธีคิดของเขาไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า เรามาเริ่มต้นกันที่คำคมแรกของวอร์เรนบัฟเฟตต์นักลงทุนผู้โด่งดังชาวอเมริกากันโดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า if you don't Find the way to make Money while You Sleep you will work Until You Die ซึ่งก็หมายความว่าถ้าคุณไม่สามารถหาทางที่จะหาเงินได้ในขณะที่คุณหลับคุณก็จะต้องทำงานไปอย่างนี้จนกระทั่งคนตายซึ่งแอดมินคิดว่าสิ่งที่คุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ต้องการที่จะสื่อไปถึงนั้นก็หน้าจะเป็นการทำธุรกิจหรือการลงทุนที่มันให้ผลตอบแทนในรูปแบบของภาษีเป็นคำนั้นเองเมื่อที่ คำคมประโยคที่ 2 ที่ก็ยังเป็นของคุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่เขาได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า If you buy Things You don't need you will have to sell Things you need ซึ่งตรงนี้ก็สามารถแปลได้ง่ายๆแบบตรงตัวเลยว่าถ้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ เยอะหรือไม่ ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ แต่ว่าความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของราคาอันนี้เกิดขึ้นได้เพราะว่าราคาตราสารหนี้มันแปรผกผันกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเรายกตัวอย่างง่ายๆว่าสมมุติว่าเมื่อปีที่แล้วคุณกระแตซื้อหุ้นกู้ตัวนึงที่ให้อัตราดอกเบี้ย 5% ผ่านมา 1 ปีปัจจุบันนี้ถ้าเกิดบริษัทเดิมจะออกหุ้นกู้เนี่ยเขาอาจจะจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 6 เปอร์เซ็นต์แล้วเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วจะขายปีนี้ได้ราคาก็ลดลงมาถึงไหนใช่เพราะว่าถ้าคนซื้อใหม่ก็ได้ 6% แล้วเพราะฉะนั้นนี่แหละแต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าดอกเบี้ยไม่ขึ้นแต่ถ้าดอกเบี้ยปีนี้เกิดดอกเบี้ยลมมึง เขียน ใหม่ของบริษัทเอเหลือ 4% ตัวใหม่ที่ออกมานี่ให้ดอกเบี้ยแก้อักเสบเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วตอนนี้ขามูลค่าเพิ่มขึ้นไปแล้วอันนี้ล่ะที่เป็นความจริงๆคือราคานี้เปลี่ยนแปลงได้จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เปลี่ยนไปแล้วก็ถูกว่าอัตราดอกเบี้ย กองทุนเช่นสมมุติว่าลงทุนในกองทุนพันธบัตรบาทแล้วก็ถ้าโชคดีเราหรอกเรามองตลาดถูกว่าอัตราดอกเบี้ยเนี่ยมันเป็นขาลงเพราะฉะนั้นเนี่ยราคาของตัวสารหนี้