ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มารู้จักตราสารหนี้ คืออะไร

ตราสารหนี้ คืออะไร

ตราสารหนี้ คืออะไร



ตราสารหนี้คืออะไรหลังจากเมื่อสักครู่ทางไปแล้วในคำว่าถ้าอยากจะฝากเงินหรือว่าจะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากแต่ว่าไม่ค่อยชอบความจริงนั้นควรทำอย่างไรพร้อมกันเลยดีกว่าทางพัทยาเขาว่าเราได้ยินคำว่าตราสารหนี้บ่อยมากในโลกของการลงทุนแล้วก็หลายคนก็อาจจะคุ้นเคยบ้างก็รู้สึกว่าคันนี้ไปสอบที่ยากเหลือเกินสำหรับใครที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงแท้จริงแล้วไม่อยากรู้ว่าความหมายตราสารหนี้คืออะไรอ่ะเวลาสมัยก่อนตราสารหนี้เวลาไปชักชวนบอกคุณลุงมาลงทุนในตราสารหนี้ไหมแต่ก็ปฏิเสธก่อนเลยไม่เป็นนี่มึงเป็นหนี้กูไม่ชอบเป็นหนี้ไม่ต้องมาชวนเพราะฉะนั้นจริงๆคือคนที่เมื่อก่อนนี้ไม่คุ้นเคยกับคำว่าสารหนี้เลยแต่หลังๆดีขึ้นมากจริงๆก็จะเริ่มรู้แล้วว่าตราสารหนี้เนี่ยจริงๆแล้วคือสถานที่แสดงสดในความเป็นนี่หมายความว่าคนที่ซื้อแต่ 3 นี่หรือคนที่ลงทุนในตราสารหนี้เนี่ยก็จะมีฐาเป็นเจ้าหนี้ส่วนคนที่ออกจากนี่ก็อยู่ในฐาของลูกหนี้ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นตราสารหนี้ชนิดหนึ่งที่รัฐบาลเป็นผู้ออกเราก็อยู่ในฐาเป็นเจ้าหนี้ของรัฐบาลรัฐบาลก็มีพันธะที่จะต้องชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้โดยทั่วไปตราสารหนี้จะมีการกำหนดอายุที่แน่นอนแล้วก็กำหนดในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ล่วงหน้าด้วยหรือเปล่าโดยทั่วไปจะต้องมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าแต่ว่าจะกำหนดไว้แบบคงที่หรือจะ

กำหนดแบบอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยอื่นเช่นอ้างอิงกับอัตรา mlr mrr mor หรือแม้แต่อินกับเงินเฟ้อก็มีแต่ว่าโดยหลักๆแล้วตราสารหนี้ก็จะมีการกำหนดในส่วนของอายุแล้วก็อัตราผลตอบแทนไว้ล่วงหน้ามีคนถามเหมือนกันในส่วนที่เราได้ยินกันเนี่ยอย่างนี้เขาเรียกว่าตราสารหนี้หรือเปล่าเพราะว่าก็มีฐาเป็นเจ้าหนี้กันใบประทวนที่ทางธนาคารธกสเป็นผู้ออกให้กับบรรดาเกษตรกรทั้งหลายที่ใช่ไหมจริงๆแล้วเนี่ยต้องบอกว่าใบประทวนนี้เป็นจะถือว่าเป็นตราสารหนี้ก็เป็นได้แต่ว่าไม่ใช่หลักทรัพย์ทางการเงินเพราะว่าเราพูดถึงตราสารหนี้ธนาคารในความหมายของตลาดการเงินเนี่ยตราสารหนี้นี้จะต้องมีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ด้วยเป็นแค่คนสองคนเท่านั้นไม่ใช่เป็นเรื่องของการตกลงกันระหว่างคน 2 คน 2 Party เพราะฉะนั้นใบประทวนเป็นตราสารแสดงสิทธิในหนี้อย่างนึงที่ธกสทุกคนออกแต่ว่าไม่ได้ถือว่าเป็นหลักทรัพย์ทางการเงินไม่ได้เอามาซื้อขายเคสมือกันได้สัญญาของคนสองคนเท่านั้นแล้วกับคำว่าสารหนี้ในตลาดการเงินของเราเนี่ยจึงมีความหมายที่อาจจะค่อนข้างชัดเจนลงไปว่านอกจากเป็นเรื่อง กำหนดเรื่องของดอกเบี้ยเรื่องของระยะเวลาเอาไว้แล้วเนี่ยยังสามารถที่จะเอามาซื้อขายเปลี่ยนมือกันในตลาดรองได้ด้วยความเข้าใจที่หลายคนกำลังถามอยู่ก็ถือว่ากันทีเดียวที่นี้มาดูเรื่องของความสำคัญของตราสารหนี้บ้างก็ถือว่ามีความสำคัญในหลายแง่มุมทั้งระบบเศรษฐกิจเองระบบการเงินหรือแม้แต่ความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ 2 ป่าติ้วคือผู้ออกก็คือทางด้านของลูกหนี้แล้วก็ผู้ซื้อคือเจ้าหนี้มีความสำคัญอย่างไรบ้างคือในส่วนของตลาดตราสารหนี้แน่นอนว่าสำหรับคนที่ต้องการออมเงินหรือลงทุนสถานีนี้ก็เป็นช่องทางนึงเพราะว่าสามารถที่จะเลือกลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภทได้ถ้าเกิดว่าคนที่ไม่ชอบความเสี่ยงเลยก็เลือกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเพราะถือว่ารัฐบาลเป็นผู้ออกพันธบัตรรัฐบาลหรือว่าไม่มีความเสี่ยงเรื่องของการที่จะผิดนัดชำระหนี้ รับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ก็เลือกลงทุนในบริษัทเอกชนต่างๆแล้วก็เป็นในเรื่องของช่องทางของการลงทุนสำหรับในส่วนของบริษัทที่ต้องการเงินในการเอาไปขยายกิจการก็ดีหรือว่าเอาเงินไปลงทุนต่างๆถ้าศาลนี่ก็เป็นช่องทางนึงเหมือนกันเพราะว่าปัจจุบันนี้กิจการต่างๆเนี่ยถ้าเกิดเราหวังพึ่งพิงแก่สถาบันการเงินคือไปกู้แบงค์เป็นหลักไม่ได้กระจายความเสี่ยงเลยเวลาที่แบงค์มีปัญหาเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อตอนตี 4 40 กิจการเราไม่ได้มีปัญหาและมีปัญหาแบงค์หยุดปล่อยกู้แบงค์เรียกเงินคืนก็ทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงักไปหมดแล้วอีกอย่างหนึ่งต้นทุนทางการเงินโดยทั่วไปเงินกู้แบงค์ปัจจุบัน mlr อยู่ที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ 7.5 เปอร์เซ็นต์

เพราะฉะนั้นถ้าเป็นบริษัทชั้นดีอาจจะพูดได้ในระดับหนึ่งต้นทุนก็ยังอยู่ประมาณ ถ้าเป็นบริษัทชั้นดีจะไปคันเดียวกันนี้เสร็จสิ้นประมาณถ้าไปกู้เงินโดยการออกหุ้นกู้ต้นทุนของการจ่ายดอกเบี้ยน่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 5% เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าก็ประหยัดต้นทุนทางการเงินไปได้เยอะเลยไปหาเพื่อนนี้ก็ถือว่าเป็นเป็นเป็นบทบาทที่สำคัญของตลาดตราสารหนี้ในระบบการเงินของเราที่เข้ามามีส่วนช่วยในการพัฒนาทั้งในส่วนของนักธุรกิจคนลงทุนแล้วก็ระบบเศรษฐกิจด้วยใช่ต้องถือว่าจะสารหนี้เนี่ยเรียกว่าเป็นหนึ่งในสามเสาหลักของระบบเศรษฐกิจของเราเวลาเราพูดถึง 3 เสาหลักในอะไรบ้างและนอนอันดับ 1 และก็สมัยก่อนที่เราพึ่งพิงเป็นหลักก็คือเงินกู้แบงค์เงินกู้จากสถาบันการเงินนั้นเองอันดับ 2 ก็คือในเรื่องของการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ส่วนตราสารหนี้เนี่ยสมัยก่อนเนี่ยเรียกว่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วคนไม่รู้จักแต่ปัจจุบันนี้ก็ได้ขึ้นมาเป็น 1 ใน 3 เสาหลักแล้วก็คือมีความใกล้เคียงกันของสัดส่วนของการระดมทุนผ่าน 3 ตลาดนี้ควรรู้เกี่ยวกับเรื่องของตราสารหนี้ก่อนที่จะมามีบทบาทไม่ว่าจะเป็นอย่างนั้นนักลงทุนหรือว่าพ่อตราสารมีอะไรบ้างเพราะว่าหลายคนก็บอกมีทั้งเรตติ้งมีทั้งเรื่องของดอกเบี้ยระยะเวลาแล้วก็เงื่อนไขต่างๆที่เราควรศึกษาสิ่งที่อยากจะบอกให้กับทุกคนได้ทราบทั่วกันมีอะไรบ้างในแง่ของการลงทุนแน่นอนในส่วนของตราสารหนี้ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของตราสารหนี้เนี่ยก็คือความเสี่ยงที่เราจะไม่ได้รับเงินคืนก็คือหมายความว่าเราลงทุนไปแล้วเนี่ยถึงเวลาก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยเราปรากฏว่าเขาไม่จ่ายเขาเบี้ยวเบี้ยวหนี้หรือถึงกำหนดที่ครบอายุตราสารหนี้แล้วเขาไม่คืนเงินต้นดังนั้นความเสี่ยงอันดับแรกก็คือความเสี่ยงในเรื่องของการที่จะไม่ได้รับคืนเงินต้นหรือดอกเบี้ยนั้นเองฉันความเสี่ยงอันนี้มันก็อยากให้เรียนรัฐบาลเราไม่มีแต่ว่าถ้าเป็นหุ้นกู้แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าความเสี่ยงชนิดนี้เนี่ยมันมากเลยมันน้อยสิ่งที่เราจะต้องไปดูก่อนเลยว่าตราสารหนี้ถ้าเราจะซื้อหุ้นกู้เราต้องรู้ว่าใครเป็นผู้ออกและผู้ออกเนี่ยมีความน่าเชื่อถือหรือเปล่าเราจะได้ประเมินของเสียงชนิดนี้ได้ถูกต้องซึ่งสิ่งที่จะมาช่วยเราในเรื่องของการประเมินความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ออกก็คือเรตติ้งสามารถที่จะไปดูได้ว่าอันดับความน่าเชื่อถือที่สถาบันจัดอันดับแรกเขาช่วยประเมินให้เราในฐานักลงทุนเราเองเราก็คงจะไม่มีความรู้ความสามารถขนาดจะเข้าไปวิเคราะห์งบการเงินได้ละเอียดไหมตัวเลขให้เป็นตัวบอกถ้าเป็น aaa ก็หมายความว่าความเสี่ยงสามารถเชื่อมเท่ากับ 1 บาทรัฐบาลแต่ว่าถ้าเป็นรถหลังกันมาตั้งแต่ 2 ตัวก็ลองลงมาจากที่พระเอกก็คือก็อยู่ในระดับดีมากแล้วก็ตัวเดียวก็ลดลงมาถ้าเป็นพี่บีก็เรียกว่าอยู่ในระดับยังยังสามารถลงทุนได้เหมือนกันแล้วก็ไล่ลงมาคือบางแห่งแล้วอาจจะเห็นว่ามีประจุด้วยก็คือเครื่องหมายบวกหรือลบและมีประจุบวกก็ดีขึ้นไปอีกแล้วก็เป็นประจุลบก็ได้ลงมาเพราะฉะนั้นสิ่งนี้ก็คือเป็นสิ่งที่จะบอกได้แล้วก็ปัจจัย

ต่อมาที่นักลงทุนจะต้องดูเวลาก่อนที่จะเข้าไปลงทุนนอกจากในเรื่องของความน่าเชื่อถือซึ่งหาได้จากลิงค์แล้วเนี่ยแล้วก็ต้องไปดูในเรื่องของอายุเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วคุณบ้านเราชอบซื้อแล้วเก็บสภาพคล่องของตราสารหนี้บางครั้งอาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างก็ต้องมั่นใจว่าในการที่เราเข้าไปซื้อแล้วคือมันเหมาะกับระยะเวลาที่เราต้องการลงทุนหรือเปล่าด้วยเช่นคนเกษียณอายุอายุ 60 เนี่ยอาจจะไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล 50 ปีนี้ก็อาจจะอาจจะไม่ใช่ยกเว้นแต่ว่าวัตถุประสงค์ของเราคือต้องการเป็นมรดกให้ลูกหลานก็เป็นจุดหนึ่งที่ที่เขาจะต้องเข้ามาดูด้วยบริษัทที่เข้ามาเป็นคนที่ทำแบบนี้เราจะเชื่อถือไว้ใจได้มากแค่ไหนเพราะว่าอยู่บ้านเราเองก็ไม่ได้มีบริษัทเดียวด้วยใช่ไหมแล้วเราจะเชื่อถือแตกต่างกันขึ้นอยู่กับอะไรอ่ะจริงๆแล้วมาตรฐานของสามารถจัดอันดับเลย สำนักงานกลตใบอนุญาตได้รับความเห็นชอบจากทางร้านเราก็เชื่อมั่นในเรื่องของมาตรฐานของการจัดอันดับเครดิตได้อยู่แล้วในส่วนที่ว่าเราจะดูยังไงปัจจุบันนี้เนี่ยสถาบันจัดอันดับที่ได้รับความเห็นชอบจากกลตนี้มี 2 แผ่นก็คือทางคริสต์กับคำ Fish Thailand ซึ่งบางคุณครูบางส่วนเขาไปจัดชั้น 2 ที่เลยก็มีหรือบางที่ได้จากที่ใดที่หนึ่งคุณเองก็สามารถที่จะเลือกดูได้เพราะว่าบังคับอยู่แล้วว่าหุ้นกู้ที่จะมีการเสนอขายต่อประชาชนจะต้องมีการจัดเรตติ้งเพราะฉะนั้นเราก็ต้องถึงว่ามาตรฐานตรงนี้เนี่ยเป็นสิ่งที่กกตกำกับดูแลอยู่แล้วก็เชื่อถือได้เพราะว่ามีหน่วยงานกำกับโดยตรงนี่มันดูประเภทของตราสารแต่ละประเภทบ้างพี่ก็มีแต่ตัวกันคราวนี้เราไม่ค่อยได้ยินแล้วรัฐบาลก็มีให้เห็นบ่อยๆแล้วก็ไล่ขึ้นมาจะถึงหุ้นกู้ในซึ่งเสียงแล้วก็เหมือนที่แตกต่างกันไปก็คือจัดสรรในตลาดตราสารหนี้เองเนี่ยเล่นอัตโนมัติรัฐบาลออกตัวรัฐบาลไม่มีความเสี่ยงเรื่องของการเดียวนี่ส่วนตัวเงินคลังเนี่ยเราก็ไม่เรียกตราสารที่รัฐบาลออกมาเป็นระยะสั้นๆว่าเป็นตราสารหนี้ตลาดเงินส่วนใหญ่แล้วก็ 1 เดือน 3 เดือนแต่ก็ขึ้นอยู่กับทางภาครัฐว่าจะมีการออกมาหรือเปล่าส่วนพันธบัตรรัฐวิสาหกิจพรุ่งนี้ก็จะเป็นตราสารที่อาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมามากกว่าบาทรัฐบาลนิดหน่อยเพราะว่าเรามีสาเหตุเป็นผู้ออกแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเนี่ยรัฐบาลก็ทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันอยู่ดีๆอย่างนามบัตรธกสเป็นต้นไม่ได้ทำประกันอย่างเดียวในส่วนของธกสเนี่ยรัฐบาลในหลายๆรุ่นโดยเฉพาะในโครงการจำนำข้าวรัฐบาลทำหน้าที่รับภาระในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ด้วยสำหรับในส่วนของหุ้นกู้คุณครูก็บริษัทเอกชนเป็นผู้เพราะฉะนั้นความเสี่ยงของหุ้นกู้ก็จะไปขึ้นอยู่กับผู้ออกนั้นๆว่ามีความน่าเชื่อถือแค่ไหนแล้วอย่างปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทยจัดอยู่ในประเภทไหนของแบงค์ชาติก็ถือเป็นหวัดภาครัฐเหมือนกันเพราะฉะนั้นความเสี่ยงก็คือเราเทียบเท่ากับภาครัฐในการก็คือความเสี่ยงต่างๆสมัยก่อนจริงๆบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทยกับธนบัตรรัฐบาลจริงๆแล้วเนี่ยตลาดอาจจะมองไม่ค่อยต่างกันมากนักปัจจุบันอาจจะมีส่วนต่างกันอยู่บ้างแต่ก็เป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยที่นี้จะเอามาพูดถึงเรื่องของสภาพคล่องตัวไม่ดีกว่าเขานี่แหละถ้าจำกันได้เราคุยกันแล้วว่าจะเรื่องของการซื้อขายในบ้านเรารายย่อยเนี่ยเข้ามาเป็นผู้ซื้อจะเยอะสภาพคล่องก็เลยค่อนข้างน้อยแต่ว่าสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยก็พยายามพัฒนาให้มีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้นผ่านบอลซุปเปอร์มาร์ทให้เล่าหลักการแล้วก็วิธีการดูให้ฟังนิดนึงคือปกติแล้วเนี่ยเนื่องจากว่าตลาดหุ้นกู้เองเนี่ยเวลาเราเห็นไม่ว่าจะเป็นปตทออกหุ้นกู้มาก็ขายให้กับรายย่อยเกลี้ยงปูนซีเมนต์แย่งกันซื้อใหญ่เลยแล้วก็อยู่ในมือรายย่อยทั้งหมดที่นี้บางครั้งคนที่ซื้อไปแล้วเขาก็อยากจะขายแต่ว่าเอไม่รู้จะไปถามที่ไหนกว่าจะเดินตระเวนไปตามธนาคารต่างๆที่เขาไปซื้อมาเนี่ยกว่าจะเช็คราคาได้ว่าไอ้แบงค์ไหนให้ราคาดีกว่ากันก็เสียเวลาหรือบางทีก็ไม่ทราบจะไปถึงเคาน์เตอร์แล้วธนาคารบอกว่าไม่รับซื้ออันนี้เป็นที่มาแล้วก็เลยคิดว่าเราควรจะทำเหมือนกับเป็นกระดานข้อมูลให้นักลงทุนสามารถที่จะเปรียบเทียบราคาได้อย่างเช่นถ้าเกิดคนที่อยากจะขายหุ้นกู้ที่ตัวเองถือมาเนี่ยก็สามารถที่จะเข้าไปดู ราคาเสนอซื้อรับซื้ออยู่หรือว่ามีใครเสนอขายอยู่แบงค์ไหนหาบ้านในบริษัทหลักทรัพย์ไหนแล้วก็สามารถที่จะเปรียบเทียบกันภายในกระดานเดียวได้เลยไม่ต้องไปดูหลายหน้าต่างไม่ต้องเดินไปติดต่อเองตามสาขาธนาคารเราจะขอให้พวกสำนักงานต่างๆเนี่ยเพราะเขาส่งข้อมูลเข้ามาทุกวันเราก็เข้าไปดูเลยว่าในแต่ละวันเนี่ยมีสถาบันไหนเสนอราคาของหุ้นกู้อะไรบ้างแล้วก็น่าสนใจไหมอ่ะแล้วคลิกเข้าไปก็สามารถที่จะไปดูรายละเอียดของ ใครฝนตกหน้าตัวเท่าไหร่แล้วภายใต้อัตราผลตอบแทนที่เขาเสนอแบบนี้คำนวณออกมาแล้วเป็นราคาได้เท่าไหร่แล้วก็ถ้าสนใจเมื่อไหร่ก็ค่อยเข้าไปจะเห็นเบอร์โทรศัพท์เบอร์โทรติดต่อดินเนอร์หรือผู้ค้าสาขานี่มันได้เลยที่มันไม่เป็นระบบเทรดเพราะว่าในส่วนของตราสารหนี้ส่วนใหญ่แล้วน้องคุณชอบถือเป็นใบเพราะฉะนั้นจะต้องมีขั้นตอนในเรื่องของการนำส่งใบหุ้นกู้ต่างในเรื่องของการตรวจหวยหุ้นกู้กยศแต่ปกติถ้าเราเข้าไปในระบบแล้วก็สามารถซื้อขายได้เลยหรือเปล่าระบบนี้เนี่ย 7 จุดประสงค์ที่ถามเนี่ยเป็นระบบข้อมูลเป็นหลักเป็นหลักเพื่อที่จะให้สามารถเปรียบเทียบได้แล้วก็สนใจโทรศัพท์ติดต่อนัดวันเลยว่าจะเอาหุ้นกู้ไปให้วันไหนจะขายวันไหนหรือว่าถ้าเกิดมันสนใจจะซื้อก็นัดวันได้เลยว่าจะไปจะจ่ายเงินวันไหนก็ได้ที่ไหนอันนี้หน้าจอนี้ที่ว่าพัฒนายังไม่ได้บอกก็คือบอลบาทซึ่งก็สามารถดูได้ผ่านเว็บไซต์ไทยดอทคอมแล้วก็แล้วก็ร่วมมือกับทางอบตด้วยเพราะว่าทางนี้ก็ต้องการที่จะส่งเสริมในเรื่องของครอบครัวของพี่พูดตรงนี้ด้วยเหมือนกันสามารถดูผ่าน mobile app ได้เลยสามารถไปดาวน์โหลดมาได้ใช้ของปลอมก็มีจะดูว่าเป็นช่องทางในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยในการให้สามารถมีสภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้นแล้วก็จะเหลือเกินว่าวันนี้หลายคนก็เข้าใจไหมในบทบาทของตราสารหนี้มากขึ้นในฐาที่เป็นว่าจะเป็นผู้ที่ออกตราสารหรือว่าผู้ที่ซื้อจากสารก็ตามแล้วก็ลูกหนี้ต่างๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กองทุนรวมคืออะไร มือใหม่ควรอ่าน

ความหมายของกองทุนรวม คืออะไร กองทุนรวม คือ กองทุนที่รวบรวมเงินไปใช้ในการซื้อสินทรัพย์หรือตราสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน ทองคำ หรือจะเป็นการลงทุนในค่าเงินต่างๆในต่างประเทศ ซึ่งการใช้บริการกองทุนรวมจะช่วยให้เงินของเราถูกจัดการและลงทุนด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆอย่างเหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญต้องมีใบอนุญาต ผ่านการอบรม และมีการลงทุนอย่างเป็นระบบตามกฎหมาย และสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการแบ่งการลงทุนในแต่ละส่วนตามหลักการที่ถูกต้องของกองทุนรวม ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับการขาดทุนจนเกินที่จะรับได้ กองทุนรวมทุกกองทุนถูกควบคุมด้วยกฎหมายและระบบธนาคาร ไม่มีกองทุนใดมีความเสี่ยงมากเกินไปและสามารถทำกำไรให้เกิดดอกออกผลให้กับเราอย่างเหมาะสม การลงทุนในกองทุนรวมจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินเยอะมาก บางกองทุนมีผลตอบแทนมากถึง 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่หากเราใจร้อนอยากได้ผลตอบแทนรวดเร็วทันใจขอแนะนำกองทุนรวมระยะสั้นที่สามารถลงทุนและรับผลตอบแทนใน 1 ถึง 6 เดือน กองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี ผู้เชี่ยวชาญแบ่งการลงท

คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีอยากรวยต้องอ่าน

คำคม ความคิดของมหาเศรษฐี กล่าวไว้ว่าถ้าเราอยากจะเป็นแบบใครก็ให้เรียนแบบคนที่เป็นแบบนั้นซึ่งถ้าเราอยากจะเป็นคนที่ร่ำรวยแล้วแล้วก็แน่นอนว่าเราก็ควรจะต้องเรียนรู้วิธีคิดในแบบของคนที่รวยๆดังนั้นในวันนี้แอดมินก็เลยมี 15 คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีระดับโลก 10 การมาฝากกันและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราเรียนรู้วิธีคิดของเขาไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า เรามาเริ่มต้นกันที่คำคมแรกของวอร์เรนบัฟเฟตต์นักลงทุนผู้โด่งดังชาวอเมริกากันโดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า if you don't Find the way to make Money while You Sleep you will work Until You Die ซึ่งก็หมายความว่าถ้าคุณไม่สามารถหาทางที่จะหาเงินได้ในขณะที่คุณหลับคุณก็จะต้องทำงานไปอย่างนี้จนกระทั่งคนตายซึ่งแอดมินคิดว่าสิ่งที่คุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ต้องการที่จะสื่อไปถึงนั้นก็หน้าจะเป็นการทำธุรกิจหรือการลงทุนที่มันให้ผลตอบแทนในรูปแบบของภาษีเป็นคำนั้นเองเมื่อที่ คำคมประโยคที่ 2 ที่ก็ยังเป็นของคุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่เขาได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า If you buy Things You don't need you will have to sell Things you need ซึ่งตรงนี้ก็สามารถแปลได้ง่ายๆแบบตรงตัวเลยว่าถ้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ เยอะหรือไม่ ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ แต่ว่าความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของราคาอันนี้เกิดขึ้นได้เพราะว่าราคาตราสารหนี้มันแปรผกผันกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเรายกตัวอย่างง่ายๆว่าสมมุติว่าเมื่อปีที่แล้วคุณกระแตซื้อหุ้นกู้ตัวนึงที่ให้อัตราดอกเบี้ย 5% ผ่านมา 1 ปีปัจจุบันนี้ถ้าเกิดบริษัทเดิมจะออกหุ้นกู้เนี่ยเขาอาจจะจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 6 เปอร์เซ็นต์แล้วเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วจะขายปีนี้ได้ราคาก็ลดลงมาถึงไหนใช่เพราะว่าถ้าคนซื้อใหม่ก็ได้ 6% แล้วเพราะฉะนั้นนี่แหละแต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าดอกเบี้ยไม่ขึ้นแต่ถ้าดอกเบี้ยปีนี้เกิดดอกเบี้ยลมมึง เขียน ใหม่ของบริษัทเอเหลือ 4% ตัวใหม่ที่ออกมานี่ให้ดอกเบี้ยแก้อักเสบเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วตอนนี้ขามูลค่าเพิ่มขึ้นไปแล้วอันนี้ล่ะที่เป็นความจริงๆคือราคานี้เปลี่ยนแปลงได้จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เปลี่ยนไปแล้วก็ถูกว่าอัตราดอกเบี้ย กองทุนเช่นสมมุติว่าลงทุนในกองทุนพันธบัตรบาทแล้วก็ถ้าโชคดีเราหรอกเรามองตลาดถูกว่าอัตราดอกเบี้ยเนี่ยมันเป็นขาลงเพราะฉะนั้นเนี่ยราคาของตัวสารหนี้