ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Warren Buffett ภาษีอสังหาริมทรัพย์

ภาษีอสังหาริมทรัพย์ Warren Buffett

ภาษีอสังหาริมทรัพย์ Warren Buffett


เกี่ยวกับภาษีของรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องเนื่องจากว่าเรื่องภาษีเป็นเรื่องสำคัญมากในการหาเสียงในการสนทนากับ jotun นักข่าวของคุณผมเริ่มด้วยการขอให้เขาอัดเสียงสัมภาษณ์ของผมไว้เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาจะนำไปเขียนจะถูกต้องเขาตอบว่าเครื่องอัดเสียงของเขาเสียดังนั้นการจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่จะต้องไปดูจากการบันทึกที่นักข่าวได้จดเอาไว้ผมไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะพบความคลาดเคลื่อนใดๆเนื่องจากว่าเขาได้ถามผมหลายครั้งให้ทวนตัวเลขที่สำคัญสำคัญหลายครั้งสิ่งที่ผมพูดเกี่ยวกับภาษีอสังหาริมทรัพย์เป็นสิ่งที่เจาะจงมากผมยกตัวอย่างบ้าน 3 หลัง 2 หลังที่ชายทะเลลากูน่าและอีกหลังที่มาๆบ้านหลังที่ชายทะเลลากูน่าผมซื้อเมื่อประมาณปี 1970 ราคาปัจจุบันอยู่ที่ราว 4 ล้านเหรียญและเนื่องจากความจำกัดที่ระบุใน Position 13 ทำให้ต้องเสียภาษีในปี 2003 เป็นเงิน 2,000 264 เหรียญและภาษีในปี 2002 เป็นเงิน 2241 เหรียญบ้านอีกหลังตั้งอยู่หลังบ้านหลังแรกซื้อเมื่อราวปี 1990 ราคาปัจจุบันราคา 2 ล้านเหรียญและเนื่องจากผมซื้อมันหลังจากที่ผมซื้อหลังแรกผมต้องเสียภาษีในปี 2003 เป็นเงินถึง 10,000 เหรียญและ 10,000 1,000 877 เหรียญในปี 2002 ผมได้ชี้ประเด็นให้โจเห็นว่ามูลค่าภาษีของบ้าน 2 หลังนี้แสดงว่าอัตราภาษีของบ้านหลังที่ 2 สูงกว่าภาษีที่ต้องจ่ายให้บ้านหลังแรกถึง 10 เท่าทั้งทั้งที่ตั้งอยู่ในย่านเดียวกันเจ้าของเดียวกันกับบ้านหลังแรกความสามารถของเจ้าของบ้านในการจ่ายภาษีเหมือนกันหลังจากยกเรื่องบ้าน 2 หลัง

แล้วผมได้ยกเรื่องบ้านพี่โอมาฮาซึ่งคิดว่านะคะของมันราวถ้าแสนเหรียญภาษีที่ต้องเสียในปี 2003 เป็นเงิน 14000 เดือนละ 12,000 481 เหรียญในปี 2002 ผมพอใจในการที่เราพูดคุยกันเมื่อผมเห็นว่าเจ้าเข้าใจประเด็นที่ผมพูดอันเป็นประเด็นที่ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากแต่มีความสำคัญมากประเด็นคือ 1 ภาษีอสังหาริมทรัพย์ในแคลิฟอร์เนียนั้นไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนเพราะภาษีไปผูกกับวันที่ซื้อแทนที่จะโยงกับราคาของอสังหาริมทรัพย์นั้นๆหรือขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินของเจ้าของบ้าน 2 ในกรณีของอสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าของถือครองมานานแล้วอัตราภาษีของบ้านที่อยู่อาศัยในโอมาสูงกว่าอัตราภาษีของรัฐแคลิฟอร์เนียมากในการให้สัมภาษณ์ผมได้พูดอย่างที่มีการออกข่าวว่าการยกตัวอย่างภาษีอสังหาริมทรัพย์ทำให้เราสามารถที่จะได้ข้อสรุปบางสิ่งบางอย่างแน่นอนแม้ว่าจะให้เกรด f กับข้อความที่ผมพูดก็ตามเราสามารถรู้ได้ว่าความคิดเห็นของผมที่ให้นั้นเป็นการพูดถึงการสังเกตของผมทั้ง 2 อันในเรื่องภาษีอสังหาริมทรัพย์ในบทความไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องบ้านหลังที่สองของผมที่ชายทะเลรักคุณมากหรือความไม่เท่าเทียมกันในการเก็บภาษีในรัฐแคลิฟอร์เนียเลยพาดหัวเนื้อข่าวและการอ้างคำพูดของผมเขียนให้เหมือนว่าผมพูดแต่เฉพาะความแตกต่างระหว่างภาษีและรัฐแคลิฟอร์เนียกับพี่โอมาฮาเท่านั้นเป็นการยากที่ผมจะเข้าใจในการที่ไม่ได้เขียนสิ่งที่เป็นสาระสำคัญที่ผมพูดลองคิดภาพว่านักข่าวถามผู้สมัครสอบเลือกตั้งเกี่ยวกับปัญหาการคลังและได้รับคำตอบเช่นนี้การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ภาษีลดลงร้อยละ 10 คุณสามารถจะได้ข้อสรุปจากข้อมูลเหล่านี้หากนักข่าวเขียนเฉพาะส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงและกล่าวต่อไปว่าคุณสามารถหาข้อสรุปจากสิ่งนี้ได้คนอาจจะต้องเกิดความเข้าใจผิด แปลบทความหน้าทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อสองสามวันต่อมาเกิดความเข้าใจผิดพลาดขึ้นในคอลัมน์จากกความผิดพลาดเกิดขึ้นจากการพึ่งพาความถูกต้องและความครบสมบูรณ์ของการรายงานของหนังสือพิมพ์เจอนั่นนั้นถึงแม้ว่าบรรณาธิการจะเขียนหลายๆประเด็นที่เหมือนกับการรายงานข่าวที่ได้เสนอไปก่อนหน้าแต่หากผู้เขียนบทบรรณาธิการ

นั้นได้อ่านบทสัมภาษณ์ของผมอย่างครบถ้วนและได้รู้สึก 2 ประเด็นที่ผมได้ให้สัมภาษณ์ไว้การวิเคราะห์ของเขาหน้าที่จะมีประเด็นที่แตกต่างไปจากที่รายงานข่าวยกตัวอย่างย่อหน้าที่ 2 ของบทบรรณาธิการที่เขียนว่าแน่นอนที่คนที่ไม่ได้เป็นเศรษฐีพันล้านในชิคาโกจะชื่นชมความเอื้อเฟื้อในการจ่ายเงินของคุณบล็อกเฟสข้อความนี้จะไม่มีความหมายอะไรเลยหาคนเขียนเข้าใจประเด็นที่ผมวิพากษ์ว่าเป็นการวิพากษ์ความไม่เท่าเทียมกันในรัฐแคลิฟอร์เนียผมเห็นใจครอบครัวที่ไม่ได้เป็นเศรษฐีพันล้านที่ซื้อบ้านราคา 3 แสนเหรียญในชีวิตโคในวันนี้ที่พวกเขาต้องจ่ายภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่สูงกว่าเศรษฐีพันล้านที่ไม่ได้มีถิ่นพำนักในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ซื้อบ้านราคา 4 ล้านเหรียญในลากูน่า Position 13 ได้ทำให้คนฐานะธรรมดาในเมืองต้องมาเป็นผู้จ่ายเงินเพื่ออุดหนุนผมไม่ใช่เพียงบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Wall Street journal ที่มีการเขียนโดยอ้างอิงบทสัมภาษณ์ของบัฟอย่างไม่ถูกต้องเรื่องการที่ผมเปรียบเทียบระหว่าง omaha และลากูน่าได้กระจายไปทั่วโลกไปร่วมกับการเขียนอธิบายความว่าผมได้ให้ได้ให้คำแนะนำว่าควรจะมีการเพิ่มภาษีอสังหาริมทรัพย์ในรัฐแคลิฟอร์เนียโดยไม่ได้พูดถึงเลยว่าผมพยายามส่งเสียงในเรื่องนั้นว่าคุณต้องทำให้มีความเท่าเทียมกันมากในการจัดเก็บภาษีเมื่อผมได้อธิบายให้ calvin harris นักข่าวของหนังสือพิมพ์ม 4 เจอนั่นว่าสิ่งที่ผมเขียนมันทำให้คนเข้าใจผิดสำนักงานของผมได้รับอีเมลจากโจฮารีนานว่าคุณอาจจะสนใจที่จะให้เราสัมภาษณ์คุณอีกครั้งเพื่อขยายความในประเด็นที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้มันเป็นเหมือนแดกดันกันเมื่อนักข่าวใช้คำว่าขยายความความคิดเห็นของผมเมื่อเขาหรือบรรณาธิการของเขาเป็นผู้ที่ตัดคำให้สัมภาษณ์ของผมจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและทำอย่างไม่เหมาะสมการให้สัมภาษณ์อีกครั้งจะยิ่งสร้างปัญหามากขึ้นเพราะการที่ผู้เขียนข่าวนั้นไม่ยอมรับความผิดที่ได้ทำไว้ในข่าวที่ออกไปนั้นมันจะทำให้เหมือนว่าผมออกมาพูดอีกเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผมพูดไปแล้วเพื่อจะทำให้ผลเสียที่เกิดขึ้นแก่อายุน้อยลงนี่เป็นประเด็นเดียวกับเหตุผลที่ทำให้ผมไม่อยากเขียนมาถึงคุณหรือพูดเกี่ยวกับภาษีจนกว่าเราจะถึงวันที่การให้สัมภาษณ์จะไม่มีผลต่อการเลือกตั้งเนื่องจากการเขียนที่บิดเบือนความคิดของผมถูกเผยแพร่ไปมากผมวางแผนที่จะนำจดหมายฉบับนี้ไปขึ้นไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทชายหาดทะเลเป็นเวลานานหน่อยเมื่อผมได้รับเชิญให้ไปพูดให้กับชั้นเรียนวิชาการหนังสือพิมพ์ผมจะใช้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่ว่านักข่าวหนังสือพิมพ์สามารถทำผิดได้มากขนาดไหนหากหนังสือพิมพ์ว่าเจอนั่นต้องการจะตอบโต้

จดหมายฉบับนี้อย่างไรผมก็ยินดีที่จะนำข้อความทั้งหมดขึ้นไปบนหน้าเว็บไซต์และส่งไปให้นักศึกษาด้านหนังสือพิมพ์ที่ผมได้ใช้ในกรณีศึกษานี้ในการสอนให้เห็นถึงบทเรียนที่ไม่ดีของการทำงานหากหนังสือพิมพ์ของคุณจะใช้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งจากจดหมายฉบับนี้ผมหวังว่าคุณก็จะใช้จดหมายนี้ทั้งฉบับโดยไม่ตัดบางส่วนออกอีกขอแสดงความนับถือศาสนานิสัยที่ดีต้องเป็นวันของอุปนิสัยมันไม่หนักจนเราสามารถรู้สึกได้จนกว่าเมื่อมันหนักมากเราไม่สามารถจะหักมันได้อุปนิสัยเป็นสิ่งที่พัฒนาการได้กล่าวว่าลองสมมุติว่าคุณเป็นนักเรียนที่จะต้องเลือกเพื่อนนักเรียนอีก 1 คนในห้องเดียวกันเพื่อคุณจะได้ส่วนแบ่งร้อยละ 10 จะรายงานของเพื่อนคนนั้นไปตลอดชีวิตสิ่งที่ร้ายพอกันคือการที่คุณ เพื่อนอีก 1 คนที่ควรจะต้องจ่ายรายได้ของคุณร้อยละ 10 ของคุณให้กับเขาตลอดชีวิตสิ่งที่น่าสนใจคือหากลองคิดถึงเรื่องสิ่งต่างๆที่เข้ามาในความคิดของคุณคุณจะพบว่าคุณไม่ได้คิดถึงเรื่องที่คุณไม่สามารถที่จะทำได้คุณไม่ได้คิดถึงแต่คนที่กระโดดสูงได้ 7 ฟุตคนที่คนที่ขว้างลูกบอลได้ไกลถึง 65 ฟุตคนที่ท่องสูตรคูณได้ถึงตัวเลข 300 หลักหรือเรื่องอื่นๆทำนองนั้นแต่คุณจะคิดถึงคุณลักษณะชีวิตทั้งหลายและความจริงนั้นคุณสามารถมีลักษณะชีวิตแบบนั้นได้เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วมันเป็นเรื่องของอุปนิสัยเบนเกรแฮมซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของผมเล่าให้ฟังตอนที่เขาอายุ 12 ปีเขาได้บันทึกลักษณะชีวิตของคนอื่นๆทั้งที่เขาชื่นชอบและลักษณะชีวิตที่เขาไม่เห็นด้วยและเมื่อได้ตรวจดูรายงานเหล่านั้นเขาพบว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวกับการวิ่ง 100 เมตรใช้ได้ใน 96 วินาทีหรือกระโดดได้สูง 7 ฟุตเลยมันล้วนแต่เป็นเรื่องของสิ่งที่คุณสามารถตัดสินใจได้เองว่าคุณจะเป็นคนที่มีลักษณะชีวิตแบบนั้นหรือไม่เราควรคบหาสมาคมกับคนที่ดีกว่าเราแล้วเราจะลอยสูงขึ้นอีกนิดหน่อยหากเราคบหาสมาคมกับคนที่ดีน้อยกว่าเราเราจะเริ่มเลื่อนสำโรงสำโรง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กองทุนรวมคืออะไร มือใหม่ควรอ่าน

ความหมายของกองทุนรวม คืออะไร กองทุนรวม คือ กองทุนที่รวบรวมเงินไปใช้ในการซื้อสินทรัพย์หรือตราสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน ทองคำ หรือจะเป็นการลงทุนในค่าเงินต่างๆในต่างประเทศ ซึ่งการใช้บริการกองทุนรวมจะช่วยให้เงินของเราถูกจัดการและลงทุนด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆอย่างเหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญต้องมีใบอนุญาต ผ่านการอบรม และมีการลงทุนอย่างเป็นระบบตามกฎหมาย และสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการแบ่งการลงทุนในแต่ละส่วนตามหลักการที่ถูกต้องของกองทุนรวม ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับการขาดทุนจนเกินที่จะรับได้ กองทุนรวมทุกกองทุนถูกควบคุมด้วยกฎหมายและระบบธนาคาร ไม่มีกองทุนใดมีความเสี่ยงมากเกินไปและสามารถทำกำไรให้เกิดดอกออกผลให้กับเราอย่างเหมาะสม การลงทุนในกองทุนรวมจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินเยอะมาก บางกองทุนมีผลตอบแทนมากถึง 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่หากเราใจร้อนอยากได้ผลตอบแทนรวดเร็วทันใจขอแนะนำกองทุนรวมระยะสั้นที่สามารถลงทุนและรับผลตอบแทนใน 1 ถึง 6 เดือน กองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี ผู้เชี่ยวชาญแบ่งการลงท

คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีอยากรวยต้องอ่าน

คำคม ความคิดของมหาเศรษฐี กล่าวไว้ว่าถ้าเราอยากจะเป็นแบบใครก็ให้เรียนแบบคนที่เป็นแบบนั้นซึ่งถ้าเราอยากจะเป็นคนที่ร่ำรวยแล้วแล้วก็แน่นอนว่าเราก็ควรจะต้องเรียนรู้วิธีคิดในแบบของคนที่รวยๆดังนั้นในวันนี้แอดมินก็เลยมี 15 คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีระดับโลก 10 การมาฝากกันและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราเรียนรู้วิธีคิดของเขาไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า เรามาเริ่มต้นกันที่คำคมแรกของวอร์เรนบัฟเฟตต์นักลงทุนผู้โด่งดังชาวอเมริกากันโดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า if you don't Find the way to make Money while You Sleep you will work Until You Die ซึ่งก็หมายความว่าถ้าคุณไม่สามารถหาทางที่จะหาเงินได้ในขณะที่คุณหลับคุณก็จะต้องทำงานไปอย่างนี้จนกระทั่งคนตายซึ่งแอดมินคิดว่าสิ่งที่คุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ต้องการที่จะสื่อไปถึงนั้นก็หน้าจะเป็นการทำธุรกิจหรือการลงทุนที่มันให้ผลตอบแทนในรูปแบบของภาษีเป็นคำนั้นเองเมื่อที่ คำคมประโยคที่ 2 ที่ก็ยังเป็นของคุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่เขาได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า If you buy Things You don't need you will have to sell Things you need ซึ่งตรงนี้ก็สามารถแปลได้ง่ายๆแบบตรงตัวเลยว่าถ้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ เยอะหรือไม่ ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ แต่ว่าความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของราคาอันนี้เกิดขึ้นได้เพราะว่าราคาตราสารหนี้มันแปรผกผันกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเรายกตัวอย่างง่ายๆว่าสมมุติว่าเมื่อปีที่แล้วคุณกระแตซื้อหุ้นกู้ตัวนึงที่ให้อัตราดอกเบี้ย 5% ผ่านมา 1 ปีปัจจุบันนี้ถ้าเกิดบริษัทเดิมจะออกหุ้นกู้เนี่ยเขาอาจจะจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 6 เปอร์เซ็นต์แล้วเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วจะขายปีนี้ได้ราคาก็ลดลงมาถึงไหนใช่เพราะว่าถ้าคนซื้อใหม่ก็ได้ 6% แล้วเพราะฉะนั้นนี่แหละแต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าดอกเบี้ยไม่ขึ้นแต่ถ้าดอกเบี้ยปีนี้เกิดดอกเบี้ยลมมึง เขียน ใหม่ของบริษัทเอเหลือ 4% ตัวใหม่ที่ออกมานี่ให้ดอกเบี้ยแก้อักเสบเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วตอนนี้ขามูลค่าเพิ่มขึ้นไปแล้วอันนี้ล่ะที่เป็นความจริงๆคือราคานี้เปลี่ยนแปลงได้จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เปลี่ยนไปแล้วก็ถูกว่าอัตราดอกเบี้ย กองทุนเช่นสมมุติว่าลงทุนในกองทุนพันธบัตรบาทแล้วก็ถ้าโชคดีเราหรอกเรามองตลาดถูกว่าอัตราดอกเบี้ยเนี่ยมันเป็นขาลงเพราะฉะนั้นเนี่ยราคาของตัวสารหนี้