ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภาษีคืออะไร จ่ายทำไม

ภาษีคืออะไรทำไมต้องจ่าย

ภาษีคืออะไรทำไมต้องจ่าย


                    บุคคลที่มีอำนาจในการบริหารและปกครองประเทศโดยมีเป้าหมายก็คือทำให้ประเทศพัฒนาและทำให้ประชากรมีความสุขเมื่อรัฐบาลจะทำให้ประเทศพัฒนาและประชากรมีความสุขก็ต้องใช้เงินในการสร้างสิ่งต่างๆใช่ไหมสิ่งที่รัฐบาลสร้างก็เช่นถนนรถสาธารณะสถานีตำรวจโรงพยาบาลโรงเรียนอื่นเยอะแยะเต็มไปหมดเลยรัฐบาลจัดบริการสาธารณะให้กับประชาชนในด้านต่างๆเป็นโรงเรียนรัฐบาลรัฐบาลจะบริการการศึกษาให้กับพวกเรานั่นก็หมายความว่าเราไม่ต้องจ่ายค่าเทอมดีทำไมถ้ามาถึงตรงนี้แล้วเพื่อนๆคงสงสัยกันว่ารัฐบาลเอาเงินมาจากไหนกันล่ะเพื่อนส่วนใหญ่ที่รัฐบาลได้มานั้นก็มาจากการค้าขายผลกำไรจากรัฐวิสาหกิจวันนี้อุ้มจะพาไปรู้จักภาษีกันภาษีภาษาอังกฤษใช้คำว่าแท็กก็คือเงินที่รัฐบาลเก็บมาจากประชาชนเพื่อนำมาพัฒนาประเทศเช่นการสร้างสิ่งต่างๆอย่างที่พูดยกตัวอย่างไปเมื่อสักครู่แล้วใครบ้างล่ะที่ต้องจ่ายภาษีก่อนอื่นเลยเพื่อนๆต้องรู้จัก
                
                    ประเภทของภาษีกันก่อนซึ่งปุ้มขอแบ่งออกเป็น 2 ประเภทนั่นก็คือภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อมประเภทที่ 1 ภาษีทางตรงได้แก่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคือภาษีที่เก็บจากบุคคลทั่วไปที่มีเงินได้ในปีนั้นๆเพื่อคำนวณแล้วมีเงินสุทธิมากกว่ากฎหมายกำหนดบุคคลทั่วไปที่มีเงินได้ก็เช่นคุณหมอคุณครูพนักงานแม่ค้าคนขับแท็กซี่หรือใครก็ตามที่มีรายได้ตามกฎหมายจะต้องมีหน้าที่ในการยื่นแบบแสดงรายการต่อกรมสรรพากรว่ากันง่ายๆก็คือบุคคลใดที่มีชีวิตอยู่ในปีนั้นๆและมีรายได้ถึงกำหนดจะต้องจ่ายภาษีในปีนั้นมีเงินได้มากก็จ่ายภาษีมากในปีนั้นมีเงินได้น้อยก็จ่ายภาษีน้อยในปีนั้นไม่มีเงินได้หรือมีเงินได้ไม่ถึงกำหนดก็ไม่ต้องจ่ายภาษีประเภทนี้ค่าต่อไปภาษีเงินได้นิติบุคคลนิติบุคคลก็คือบุคคลที่กฎหมายสมมติขึ้นไม่มีชีวิตเช่นบริษัทห้างหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้วางหลักไว้ว่านิติบุคคลมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดาซึ่งกระทำการต่างๆโดยผู้แทนนิติบุคคลพูด
ภาษากฎหมายและเพื่อนๆอาจจะงงยกตัวอย่างเช่นนางขอนั่งคอ 3 คนร่วมกันเปิดบริษัทชื่อ ABC ถ้าขายเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยจดทะเบียนเป็นบริษัทแบบนี้บริษัท abc ก็ถือว่าเป็นนิติบุคคลเวลาจะดำเนินการใดๆนางก.ค. จะเป็นผู้กระทำการแทนบริษัท ABC บุคคลที่อยู่รอบตัวเรามีเยอะแยะเต็มไปหมดเลยนิติบุคคลที่ได้กำไรจากการดำเนินกิจการจะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีต่อกรมสรรพากรวันนี้ตอนต่อไปปุ้มจะมาอธิบายต่อเกี่ยวกับภาษีทางอ้อมซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของพวกเรามากๆและวิธีการคิดภาษีบุคคลธรรมดาแบบง่ายๆเอาไว้คุยกับคุณพ่อคุณแม่กันสรุปบทเรียนในวันนี้ภาษีเป็นรายได้หลักของรัฐบาลรัฐบาลใช้เงินที่ได้จากภาษีมาเพื่อการพัฒนาประเทศรัฐบาลเก็บภาษีจากชาชนซึ่งแบ่งออกเป็นภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อมสำหรับภาษีทางตรงนั้นจัดเก็บโดยกรมสรรพากรซึ่งอยู่ในการควบคุมของรัฐบาลโดยเก็บจากบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลบุคคลธรรมดาเมื่อมีเงินได้สุทธิถึงกำหนดจะต้องชำระภาษีส่วนนิติบุคคลเมื่อมีกำไรสุทธิถึงกำหนดก็จะต้องชำระภาษีสำหรับวันนี้ผมขอลาไปก่อนยังไงเพื่อนๆ

ภาษีคืออะไร จ่ายทำไม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กองทุนรวมคืออะไร มือใหม่ควรอ่าน

ความหมายของกองทุนรวม คืออะไร กองทุนรวม คือ กองทุนที่รวบรวมเงินไปใช้ในการซื้อสินทรัพย์หรือตราสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน ทองคำ หรือจะเป็นการลงทุนในค่าเงินต่างๆในต่างประเทศ ซึ่งการใช้บริการกองทุนรวมจะช่วยให้เงินของเราถูกจัดการและลงทุนด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆอย่างเหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญต้องมีใบอนุญาต ผ่านการอบรม และมีการลงทุนอย่างเป็นระบบตามกฎหมาย และสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการแบ่งการลงทุนในแต่ละส่วนตามหลักการที่ถูกต้องของกองทุนรวม ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับการขาดทุนจนเกินที่จะรับได้ กองทุนรวมทุกกองทุนถูกควบคุมด้วยกฎหมายและระบบธนาคาร ไม่มีกองทุนใดมีความเสี่ยงมากเกินไปและสามารถทำกำไรให้เกิดดอกออกผลให้กับเราอย่างเหมาะสม การลงทุนในกองทุนรวมจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินเยอะมาก บางกองทุนมีผลตอบแทนมากถึง 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่หากเราใจร้อนอยากได้ผลตอบแทนรวดเร็วทันใจขอแนะนำกองทุนรวมระยะสั้นที่สามารถลงทุนและรับผลตอบแทนใน 1 ถึง 6 เดือน กองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี ผู้เชี่ยวชาญแบ่งการลงท

คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีอยากรวยต้องอ่าน

คำคม ความคิดของมหาเศรษฐี กล่าวไว้ว่าถ้าเราอยากจะเป็นแบบใครก็ให้เรียนแบบคนที่เป็นแบบนั้นซึ่งถ้าเราอยากจะเป็นคนที่ร่ำรวยแล้วแล้วก็แน่นอนว่าเราก็ควรจะต้องเรียนรู้วิธีคิดในแบบของคนที่รวยๆดังนั้นในวันนี้แอดมินก็เลยมี 15 คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีระดับโลก 10 การมาฝากกันและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราเรียนรู้วิธีคิดของเขาไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า เรามาเริ่มต้นกันที่คำคมแรกของวอร์เรนบัฟเฟตต์นักลงทุนผู้โด่งดังชาวอเมริกากันโดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า if you don't Find the way to make Money while You Sleep you will work Until You Die ซึ่งก็หมายความว่าถ้าคุณไม่สามารถหาทางที่จะหาเงินได้ในขณะที่คุณหลับคุณก็จะต้องทำงานไปอย่างนี้จนกระทั่งคนตายซึ่งแอดมินคิดว่าสิ่งที่คุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ต้องการที่จะสื่อไปถึงนั้นก็หน้าจะเป็นการทำธุรกิจหรือการลงทุนที่มันให้ผลตอบแทนในรูปแบบของภาษีเป็นคำนั้นเองเมื่อที่ คำคมประโยคที่ 2 ที่ก็ยังเป็นของคุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่เขาได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า If you buy Things You don't need you will have to sell Things you need ซึ่งตรงนี้ก็สามารถแปลได้ง่ายๆแบบตรงตัวเลยว่าถ้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้

ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ เยอะหรือไม่ ความเสี่ยงใน ตราสารหนี้ แต่ว่าความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของราคาอันนี้เกิดขึ้นได้เพราะว่าราคาตราสารหนี้มันแปรผกผันกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเรายกตัวอย่างง่ายๆว่าสมมุติว่าเมื่อปีที่แล้วคุณกระแตซื้อหุ้นกู้ตัวนึงที่ให้อัตราดอกเบี้ย 5% ผ่านมา 1 ปีปัจจุบันนี้ถ้าเกิดบริษัทเดิมจะออกหุ้นกู้เนี่ยเขาอาจจะจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 6 เปอร์เซ็นต์แล้วเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วจะขายปีนี้ได้ราคาก็ลดลงมาถึงไหนใช่เพราะว่าถ้าคนซื้อใหม่ก็ได้ 6% แล้วเพราะฉะนั้นนี่แหละแต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าดอกเบี้ยไม่ขึ้นแต่ถ้าดอกเบี้ยปีนี้เกิดดอกเบี้ยลมมึง เขียน ใหม่ของบริษัทเอเหลือ 4% ตัวใหม่ที่ออกมานี่ให้ดอกเบี้ยแก้อักเสบเพราะฉะนั้นแปลว่าหุ้นกู้ที่คุณกระแตซื้อเมื่อปีที่แล้วตอนนี้ขามูลค่าเพิ่มขึ้นไปแล้วอันนี้ล่ะที่เป็นความจริงๆคือราคานี้เปลี่ยนแปลงได้จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เปลี่ยนไปแล้วก็ถูกว่าอัตราดอกเบี้ย กองทุนเช่นสมมุติว่าลงทุนในกองทุนพันธบัตรบาทแล้วก็ถ้าโชคดีเราหรอกเรามองตลาดถูกว่าอัตราดอกเบี้ยเนี่ยมันเป็นขาลงเพราะฉะนั้นเนี่ยราคาของตัวสารหนี้