ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การเมืองเกี่ยวข้องกับการเงินอย่างไร

 

การเมืองกับการเงิน

การเมืองกับการเงิน


            ญี่ปุ่นเลยสิงคโปร์เกาหลีใต้คือสองแขนสองขาเหมือนกันสังเกตง่ายๆประเทศไหนเจริญให้ดูที่สี่แยกไฟแดงโดยเฉพาะไฟเหลืองไฟเหลืองเป็นจุดตัดของความเจริญ วันนี้พี่ก็ตั้งใจว่าจะหาเรื่องแบบสนุกๆมาคุยกันเรื่องที่มันสบายสบายไม่เครียดเรื่องการเมือง จะจัดเลือกตั้งเนี่ยมีหน่วยเลือกตั้งต่างๆมีเจ้าหน้าที่ไปสแตนบายตามจุดต่างๆมันก็เป็นเงินมาแต่ละพรรคใช้เงินอัดฉีดในการทำไม่ใช่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดโฆษณาผ่านทางทีวีผ่านทาง Social Media หลายๆคืนนั้นเงินสะพัดเลยอะมหาศาลมากทำไมเลือกตั้งมีผลต่อเศรษฐกิจไม่ได้แปลว่าบอกว่ามีข่าวเลือกตั้งแล้วมันจะบวกทุกครั้งอันนั้นเลือกตั้งอาจจะลบก็ได้แต่ส่วนมากแต่ประสบการณ์ที่เห็นมามักจะเป็นบวกเหตุผลเพราะว่ามันสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนให้กับนักลงทุนว่ามันจะเกิดสิ่งที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบันโดยเฉพาะถ้าที่ผ่านมามันไม่ค่อยดีใช่ไหมแล้วก็ อย่างน้อยคนก็ถือว่ามันมีสิ่งใหม่ที่ดีกว่ารออยู่แค่นี้คนก็กล้าที่จะลงทุนนั่นแหละฝรั่งแล้วใกล้จะลงทุนเป็นต้นหรือคนไทยเองก็กล้าที่จะลงทุนหรือกล้าที่จะซื้อลงทุนในหุ้นอสังหาอะไรเงี้ยสุดท้ายมันขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของโลกด้วยเพราะว่าไทยก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ยังไงถ้าโลกรอบๆข้างแย่ก็ต้องบอกว่าเราก็ต้องมีผลกระทบกับธุรกิจที่มักจะมีขึ้นทันทีหลังเลือกตั้งก็มักจะเป็นอะไรที่เลยที่เกี่ยวข้องกับพวกสาธารณูปโภคเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเนี่ยพอรัฐบาลเกิดขึ้นใช่ไหมแล้วเขาอยากจะให้ประเทศมี GDP โตขึ้นหรือเงินไปถึงประชาชนมากขึ้นวิธีการสร้างโปรเจคขึ้นมาก็คือพวกสาธารณูปโภคทั้งหลายแหล่เกินสร้างถนนสร้างทางด่วน ไฟฟ้าเพราะว่ามันมันเป็นการสร้างแรงงานช่างกลทันทีแล้วก็เรามีเจ้าหน้าที่ภาคตะวันออกเนี่ยตัวนั้นโตจริงๆคนแถวนั้นเราอาจจะทำมาค้าขายอะไรเขาก็จะรายได้ก็ควรจะมากขึ้นเพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลส่วนมากค่ะวันหลังจากเลือกตั้งเลยก็คือนี่แหละสร้างสาธารณูปโภคเพิ่มหรือของเก่าสร้างของใหม่หรือขยายอะไรก็แล้วแต่ก็เลยทำให้ดีขึ้นแต่ไม่ได้แปลว่าดีกันทั้งประเทศเพราะมันก็จะดีกับกลุ่มเท่านั้นดีจริงๆที่ได้อันดับต้นๆหรือบริษัทได้ก่อน สวนสัตว์ทั้งหลายแหล่ที่ก่อสร้างพรุ่งนี้แน่นอนก็ต้องได้ไปซึ่งอาจจะได้มากกว่าประชาชนทั่วไปด้วยซ้ำฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆไอ้พักในใจให้ทุกคนเลือกพรรคนี้ด้วยซ้ำไปก่อนจะบอกว่าพรรคไหนอะไรกันก็เรานิดนึงละกันก็คือทิ้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเนี่ยไปเที่ยวญี่ปุ่นมากับพี่พรภรรยาแล้วก็ไม่รู้ทำไมเธอว่าช่วงนี้มันมีการเลือกตั้งแล้วก็เห็นข่าวเลือกตั้งเห็นการอะไรเราก็นึกขึ้นมาได้ว่าเราเคยเรียนว่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นแพ้สงครามแล้วเราก็เออใช่เขาไปสงครามเพราะว่าเขาโดนระเบิดปรมาณูไป 2 ลูกใช่ไหมแล้วขณะเดียวกันประเทศไทยในยุคสงครามโลกที่ 2 เราเองเนี่ยเราไม่ได้แพ้สงครามคะยุ่งเนี่ยเราเข้ากับทุกฝ่ายได้หมดเรานึกว่าในยุคนั้นถ้าเปรียบเทียบการจบสงครามโลกที่ 2 คือญี่ปุ่นถือว่า - อยู่มาจนโดนระเบิด 2 ลูกใช่ไหมหรือว่าถอยหลังไปนานมากเป็น 10-20 ปีแล้วที่เมืองไทยก็ถือว่ากันกลางและก็ไม่ได้บวกเราก็เก็บเงินน่ะเจ็บไม่เท่าเขาผ่านมาประมาณ 15 ปีแต่ญี่ปุ่นเขาแซงหน้าเราไปไกลมาไกลเหลือเกินเลยญี่ปุ่นเนี่ยเคยขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกด้วยซ้ำไปแล้วแจ้งทุกชาติเลยแต่ตอนนี้ตกมาอันดับ 3 เพราะว่ามีตีนแล้วแต่ก็ยังถือว่าเยี่ยมมากๆลูกค้าเข้าตรงไหนวะนี่คือคำถามที่ตั้งกับตัวเองว่าเราคนไทยเราเราสู้ญี่ปุ่นไม่ได้ตรงนั้นเราสงขลาสงขลาเหมือนกันเขาเริ่มจากร้อยกว่าเราตั้งเยอะแต่ตัวนี้คือเขามีแบรนด์เป็นของตัวเองมีรถส่งออกทั่วโลกเลยเจ้าคะหน้า toyota Kawasaki เครื่องใช้ไฟฟ้าคือ

                ทุกด้านมีของญี่ปุ่นหน่อยเกิดอะไรขึ้นกับเราว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเขาว่าคือสงครามสงครามเหมือนกันหน้าตาก็ใกล้เคียงกันด้วยซ้ำอีกประเทศหนึ่งคือสิงคโปร์อันนี้ใกล้บ้านเราสิงคโปร์ประเทศเล็กนิดเดียวประชากรเพียง 56 ล้านคนอื่นมากกว่าประเทศไทยซึ่งมีประชากรถึง 7 เหมือนเดิมเราสู้เขาไม่ได้ตรงไหนตรงแขนขาเหมือนกันเราก็มีมากกว่าสวยงามทะเลสวยงามมีภูเขามีข้าวมีผลไม้นำเข้าหรือยังซื้อหรือยังซื้อถังน้ำอยู่ซื้อเลยเล็กกว่าเราตั้งเยอะทำไมอยู่ดีๆมากกว่าเรา ทางไปมากผลิตๆมีมือถือของเขาเองมีทีวีทุกบ้านแทบใช้ของเขาทั้งโลกรถยนต์กับเขาเองก็มีเพลงของเขาขายทั้งโลกนำส่งเขาซื้อเขาเราก็ดูเราสู้เขาไม่ได้ตรงไหนวะสิงคโปร์เกาหลีใต้ 2 แขน 2 ขาเหมือนกันแล้วเขาเองก็ไม่ได้เริ่มต้นเหนือกว่าเราด้วยซ้ำเขาเริ่มต้นเริ่มต้นหญ้ากับเราเธอไม่เข้าใจเราไปยังไม่รวมวันนี้ทรัพยากรเราดีกว่าบางประเทศคือจะบอกว่าโชคร้ายก็ได้มั้งญี่ปุ่นโดนแผ่นดินไหวทุกรอบทุกปีต้องได้ยินข่าวแผ่นดินไหวบนตึกสูงๆคันคอกลมปีก็มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดต่างประเทศก็น้ำท่วมตลอดหรือแบบมีพายุเข้าตลอดแต่มันถ่ายไม่มีอะไรเลยเรามีทุกอย่างสมบูรณ์คือเราปลอดภัยเราจะทำให้เราเราไม่ค่อยไปไหนเท่าไหร่หรอกนี่ประเทศนึงถ้าเขายังโตแบบนี้แต่เราโตแบบนี้เขาจะแซงเรานั้นคือเวียดนาม ได้มีโอกาสไปบ่อยเพราะว่าเผอิญมีเพื่อนเป็นชาวเวียดนามไปตั้งแต่ไม่มีอะไรเลยอ่ะดูแล้วแบบ 50 ปีอะไรก็ลงมาเลยทั้งโฮจิมินห์ฮานอยทุกวันนี้เราก็ไปเยี่ยมเพื่อนไปบ่อยไปบ่อยๆจนหน้าตาเหมือนกรุงเทพฯเลยอ่ะคือเขาโตเร็วมากไม่ได้บอกว่าให้เราไม่มีดีแต่ก็ต้องบอกว่าวันนี้หน้าที่เราเราจะพัฒนาแล้วก็ต้องดูว่ามีใครที่เขาทำได้ดีแล้วก็เผื่อจะได้เรียนรู้จักเขาใช่ไหมถ้าถ้ายังเป็นอะไรไปเรื่อยเวียดนามวันไหนจะแจ้งไม่เกิน 25 เราคนไทยเอาญี่ปุ่นเกาหลีใต้กระโปรงนักเรียนกันยืนเรียงกันใช่ไหมฝรั่งบอกไม่ได้เลยใครเป็นใครทำหน้าตาเหมือนกันข้างๆเลยคล้ายกันแต่ถ้าถามว่าถ้าเราจะสู้เขาไม่ได้จริงๆตรงไหนหนึ่งก็คือเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวคือเขามีความเป็นอย่างเดียวมากกว่าเราการที่ 2 คือเขาเห็นผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตนซึ่งอันนี้ต้องบอกเลยเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่ไปไหนสักที สังเกตง่ายๆประเทศไหนเจริญให้ดูที่สี่แยกไฟแดงโดยเฉพาะไฟเหลืองไฟเหลืองเป็นจุดตัดของความเจริญและถ้าเป็นประเทศที่เจริญแล้วที่มีความเห็นผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตนถ้าเป็นประเทศเหล่านี้เขาก็จะทะเลาะแล้วก็จอดพูดให้คนได้เดินไงคือคนเดินอย่างมั่นใจแล้วคือสง่าผ่าเผยว่าเขารู้ว่าไม่เป็นไรแน่นอนแต่ถ้าเป็นประเทศไทยเจอกันเลี้ยงทุกคันต้องรีบเหยียบเลยเพราะว่าเดี๋ยวติดไฟแดงนี่ไงคือการเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวมที่นี้พอเราเป็นแบบนี้กับพื้นที่นี้ได้แล้วก็เป็นกับพื้นที่อื่นได้

การเมืองเกี่ยวข้องกับการเงินอย่างไร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กองทุนรวมคืออะไร มือใหม่ควรอ่าน

ความหมายของกองทุนรวม คืออะไร กองทุนรวม คือ กองทุนที่รวบรวมเงินไปใช้ในการซื้อสินทรัพย์หรือตราสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน ทองคำ หรือจะเป็นการลงทุนในค่าเงินต่างๆในต่างประเทศ ซึ่งการใช้บริการกองทุนรวมจะช่วยให้เงินของเราถูกจัดการและลงทุนด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆอย่างเหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญต้องมีใบอนุญาต ผ่านการอบรม และมีการลงทุนอย่างเป็นระบบตามกฎหมาย และสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการแบ่งการลงทุนในแต่ละส่วนตามหลักการที่ถูกต้องของกองทุนรวม ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับการขาดทุนจนเกินที่จะรับได้ กองทุนรวมทุกกองทุนถูกควบคุมด้วยกฎหมายและระบบธนาคาร ไม่มีกองทุนใดมีความเสี่ยงมากเกินไปและสามารถทำกำไรให้เกิดดอกออกผลให้กับเราอย่างเหมาะสม การลงทุนในกองทุนรวมจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินเยอะมาก บางกองทุนมีผลตอบแทนมากถึง 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่หากเราใจร้อนอยากได้ผลตอบแทนรวดเร็วทันใจขอแนะนำกองทุนรวมระยะสั้นที่สามารถลงทุนและรับผลตอบแทนใน 1 ถึง 6 เดือน กองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี ผู้เชี่ยวชาญแบ่งการลงท...

คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีอยากรวยต้องอ่าน

คำคม ความคิดของมหาเศรษฐี กล่าวไว้ว่าถ้าเราอยากจะเป็นแบบใครก็ให้เรียนแบบคนที่เป็นแบบนั้นซึ่งถ้าเราอยากจะเป็นคนที่ร่ำรวยแล้วแล้วก็แน่นอนว่าเราก็ควรจะต้องเรียนรู้วิธีคิดในแบบของคนที่รวยๆดังนั้นในวันนี้แอดมินก็เลยมี 15 คำคมจากความคิดของมหาเศรษฐีระดับโลก 10 การมาฝากกันและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราเรียนรู้วิธีคิดของเขาไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า เรามาเริ่มต้นกันที่คำคมแรกของวอร์เรนบัฟเฟตต์นักลงทุนผู้โด่งดังชาวอเมริกากันโดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า if you don't Find the way to make Money while You Sleep you will work Until You Die ซึ่งก็หมายความว่าถ้าคุณไม่สามารถหาทางที่จะหาเงินได้ในขณะที่คุณหลับคุณก็จะต้องทำงานไปอย่างนี้จนกระทั่งคนตายซึ่งแอดมินคิดว่าสิ่งที่คุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ต้องการที่จะสื่อไปถึงนั้นก็หน้าจะเป็นการทำธุรกิจหรือการลงทุนที่มันให้ผลตอบแทนในรูปแบบของภาษีเป็นคำนั้นเองเมื่อที่ คำคมประโยคที่ 2 ที่ก็ยังเป็นของคุณวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่เขาได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า If you buy Things You don't need you will have to sell Things you need ซึ่งตรงนี้ก็สามารถแปลได้ง่ายๆแบบตรงตัวเลยว่าถ้...

Warren Buffett คือใครมาอ่านกัน

ประวัติย่อๆ Warren Buffett Warren Buffett มีใครที่ไหนที่มีชื่อเล่นมากกว่าวอร์เรนบัฟเฟตต์บ้างเรียกเขาว่าเป็นบริษัทไฟแนนซ์เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้พยากรณ์ของ omaha เป็นคนค้าขายที่ซื่อตรงแห่งหนึ่งในพื้นที่เรียบง่ายนักวอลเล่และการเงินของโลกเรียกว่าเป็นราชาแห่งเครื่องประดับเพราะเขาเป็นเจ้าของร้านอัญมณีหลายร้านซึ่งรวมถึงร้านอัญมณีที่ใหญ่เป็นที่สองของสหรัฐบอนไซแห่งหนึ่งมีหนังสือหลายเล่มพยายามที่จะอธิบายถึงบุคลิกปรัชญาและสาระที่แท้จริงของนักลงทุนระดับโลกที่ประสบความสำเร็จแต่คำอธิบายเหล่านี้ไม่เพียงพอที่จะอธิบายถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์คู่นี้ได้เว้นแต่อาจจะอธิบายคำพูดของเขาเองไม่มีใครอธิบายถึงวอเรนบัฟเฟตได้แม้กระทั่งตัวของเขาเองเพราะการตระหนักเช่นนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้รวบรวมคำพังเพยและข้อสังเกตต่างๆของเขาไว้ใครคือฮีโร่ของชาวอเมริกันหรือรับบุญที่ยังมีคนการค้าคนนี้นี่คือเรื่องพื้นฐานท่านจะได้รู้รายละเอียดมากขึ้นเมื่อท่านอ่านหนังสือเล่มนี้ทั้งเล่มซึ่งเป็นการรวบรวมคำพูดของเขาเอง เกิดวันที่ 30 สิงหาคม 1930 ในเมืองเขาเรียนชั้นประถมที่เมืองนั้นแต่ไปเรียนชั้นมัธยมต้นและปลายที่กรุงวอชิงตั...